โชคชะตาครั้งใหม่ของเฟิ่งอิงฮวา
ชมพู่...หญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่ต้องทนทุกข์อยู่กับชีวิตที่เป็นคนพิการเดินไม่ได้ของเธอมานานหลายปี แต่เมื่อตายไปแล้วเธอกลับได้โอกาสไปเกิดใหม่ในยุคโบราณที่เธอเองก็ไม่รู้จัก แต่ชีวิตใหม่นี้มันช่าง...!!
ผู้เข้าชมรวม
384
ผู้เข้าชมเดือนนี้
384
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ชมพู่ที่เกิดและเติบโตมาจากครอบครัวที่อบอุ่น หลังจากที่เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อตอนอายุได้เพียงเก้าขวบ ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ได้กลายเป็นคนพิการขาขาดทั้งสองข้างโดยสมบูรณ์ แต่แม้ว่าเธอจะกลายเป็นคนพิการ ทุกคนในครอบครัวต่างก็รักใคร่และดูแลเธอเป็นอย่างดีเสมอมา
ชมพู่มีพี่ชายสองคนคือโรมและรัน ครอบครัวของเธอมีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรับเหมาและธุรกิจส่งออกผลไม้แปรรูป เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยในลำดับต้นๆของประเทศเลยก็ไม่ผิด แม้จะมีชีวิตที่เพรียบพร้อม แต่เธอก็ไม่ได้มีความสุขได้อย่างเต็มที่เท่าไรนักเพราะ…เธอเป็นคนพิการ!!
แม้ครอบครัวจะคอยตามใจและไม่เคยบังคับให้เธอต้องเดินตามเส้นทางธุรกิจของครอบครัว เธอมีอิสระในการเลือกเรียนและการตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ นี่จึงเป็นเรื่องดีสำหรับชมพู่มาก ในระหว่างที่เธอเรียนระดับมหาวิทยาลัย วันว่างๆเธอก็ได้เข้าครอสเรียนทำอาหาร เบเกอรี่และอื่นๆอีกมากมายเพราะความไม่อยากอยู่ว่างๆให้ตัวเองต้องคิดมากกับความพิการของตัวเอง
เธอใช้ชีวิตวนอยู่กับการเรียนและการเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายจนกระทั่งชมพู่อายุเข้ายี่สิบสองปี หลังจากครอบครัวจัดงานวันเกิดอายุครบยี่สิบสองปีผ่านไปได้เพียงแค่อาทิตย์เดียว ชมพู่ก็ป่วยหนักจนต้องส่งเข้าแอดมิดในโรงพยาบาลโดยด่วน และคุณหมอก็ได้ตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว
ชมพู่ที่รู้ว่าชีวิตของเธอจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้วก็ได้แต่ทำใจ เธอเก็บข่มความเศร้าเอาไว้ให้ลึกที่สุดเพราะไม่อยากจะให้คุณพ่อคุณแม่และพี่ชายทั้งสองคนต้องเป็นทุกข์กับอาการป่วยของเธอ ชมพู่พยายามใช้ชีวิตอย่างสดใสร่าเริงเหมือนหลายๆปีที่ผ่านมา เธอยิ้มแย้มใช้ชีวิตในแต่ล่ะวันอยู่กับครอบครัว พยายามเก็บเกี่ยวความรักและความอบอุ่นจากพวกเขาให้ได้มากที่สุด
แม้ว่าชีวิตต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา แต่ชมพูก็ยังคงมีรอยยิ้มให้กับทุกคนในครอบครัวอยู่ตลอด เธอพยายามเข้มแข้งอย่างถึงที่สุดเพื่อให้ทุกคนสบายใจ จนสุดท้ายเธอก็จากไปอย่างสงบในคืนหนึ่ง
ดวงวิญญาณของชมพู่ยืนมองภาพของคุณพ่อคุณแม่นั่งร้องไห้กอดร่างไร้วิญญาณของเธอจนแทบจะขาดใจ พี่ชายทั้งสองคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงด้วยความเสียใจ
"ฮึกๆ ฮื่อๆ…หนูขอโทษค่ะ ขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณพ่อคุณแม่และพี่ชายต้องเสียใจ หนูขอโทษที่ไม่สามารถอยู่กับทุกคนได้อีกต่อไปแล้ว ฮื่อออ…หนูขอโทษ" ดวงวิญญาณของชมพู่ได้แต่ยืนร่ำไห้อย่างสุดแสนจะเจ็บปวดทรมานกับภาพที่เธอเห็น เธอได้แต่พร่ำบอกขอโทษอยู่ซ้ำๆอย่างนั้น
ท่านเทพชะตาที่โผล่มายืนอยู่ข้างๆเธอตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบได้ เทพชรายืนมองหญิงสาวอยู่สักพักด้วยความเห็นใจ แต่เขาเองก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้มาก เพราะนี่เป็นชะตากรรมของเธอ ชะตาที่เธอต้องเผชิญกับมันและชีวิตในชาตินี้ของนางก็ได้จบลงแล้ว
"เจ้าเลิกร้องไห้เสียใจได้แล้ว ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องไปเกิดใหม่แล้วล่ะนังหนู" ท่านเทพชะตาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง
ชมพู่ที่อยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนพูดขึ้นอยู่ข้างๆก็ชะงักก่อนจะหันหน้ามามอง เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะถามขึ้น "คุณตา คุณตาเป็นใครเหรอคะ? มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?"
"ข้าเป็นใครนั้นเจ้าไม่ต้องรู้หรอก รู้แค่ว่าข้ามาพาดวงวิญญาณของเจ้าไปเกิดใหม่ก็พอแล้ว" ท่านเทพชะตาพูดขึ้นอีกครั้ง
"ไปเกิดใหม่! ไม่ใช่ว่าหนูต้องไปนรกหรือสวรรค์เหรอคะ? หนูไม่ต้องไปชดใช้กรรมก่อนหรอ?" ชมพู่ถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้
"เจ้าอย่าถามอันใดให้มากความเลย ใกล้จะถึงเวลาของเจ้าแล้ว จำไว้นังหนู…ชะตากรรมของเจ้าไม่ว่าจะชาตินี้หรือชีวิตใหม่ที่เจ้ากำลังจะต้องใช้ ทั้งหมดนี้คือชะตากรรมของเจ้าทั้งสิ้น ดังนั้น…เจ้าจงใช้ชีวิตให้ดีและทำความดีให้มากๆเล่า" ท่านเทพชะตาหยุดพูดแล้วมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าอย่างจริงจัง
"นังหนู…เลือดของเจ้าในชีวิตใหม่นั้นมีความพิเศษมาก เพื่อความปลอดภัยของตัวเจ้าเอง เจ้าจงเก็บความลับนี้เอาไว้ให้ดี อย่าให้ผู้อื่นล่วงรู้ได้เล่า เลือดของเจ้านั้นสามารถรักษาได้ทุกโรค รักษาพิษได้ทุกชนิด หากบาดเจ็บหนักหากยังมีลมหายใจอยู่ เลือดของเจ้านั้นสามารถยื้อชีวิตของคนผู้นั้นมาจากความตายได้อย่างอัศจรรย์ ข้าบอกเจ้าได้เพียงเท่านี้ จงใช้ชีวิตให้มีความสุขเถิด"
หลังจากท่านเทพชะตาพูดจบก็ได้เกิดประตูมิติที่มีแสงสว่างเจิดจ้าดูดเอาดวงวิญญาณของชมพู่เข้าไปในประตูนนั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจจะฟังคำพูดใดจากชมพู่อีกแล้ว "ด่ะ เดี๋ยววว!!!"
หลังจากประตูมิติปิดลงแล้ว ท่านเทพชราก็ได้ถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับพึมพำขึ้นมา "ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้ล่ะนังหนู ชะตาของเจ้านั้นไม่อาจจะฝืนได้อีกแล้ว หวังว่าเจ้าจะมีความสุขและใช้ชีวิตได้อย่างที่เจ้าเฝ้าภาวนามาตลอดชั่วชีวิตนะ"
ช่วงเวลา
ยามจื่อ = 23.00 - 24.59 นาที
ยามโฉว่ = 01.00 - 02.59 นาที
ยามอิ๋น = 03.00 - 04.59 นาที
ยามเหม่า = 05.00 - 06.59 นาที
ยามเฉิน = 07.00 - 08.59 นาที
ยามซื่อ = 09.00 - 10.59 นาที
ยามอู่ = 11.00 - 12.59 นาที
ยามเว่ย = 13.00 - 14.59 นาที
ยามเซิน = 15.00 - 16.59 นาที
ยามโหย่ว = 17.00 - 18.59 นาที
ยามซวี = 19.00 - 20.59 นาที
ยามห้าย = 21.00 - 22.59 นาที
1 เค่อ = 15 นาที
1 ชั่วยาม = 2 ชั่วโมง
ค่าเงิน
1000 อีแปะ = 1 เหรียญเงิน
100 เหรียญเงิน = 1 เหรียญทอง
หน่วยวัดน้ำหนัก
1 ชั่ง = 1 กิโลกรัม
1 จิน = 500 กรัม
1 เหลี่ยง = 50 กรัม
ผลงานอื่นๆ ของ แม่หญิงเพลิดเพลิน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ แม่หญิงเพลิดเพลิน
ความคิดเห็น